อำนาจทางการตลาดของการแจ้งเตือนทางมือถือกำลังกลายเป็นที่ชัดเจนมากขึ้น ผู้ใช้แอปต่างให้การตอบสนองที่ดี และนี่กำลังเข้ามาเปลี่ยนวิธีการสื่อสารระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ธุรกิจ
เมื่อเราก้าวเข้ามาอยู่ในยุคที่คนเราขาดมือถือไม่ได้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่นักการตลาดเลือกใช้วิธีการทำการตลาดทางมือถือ การแจ้งเตือนผ่านมือถือนั้นทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ตลาดทางมือถือ
จากข้อมูลดัชนีการใช้งานเครือข่ายอินเตอร์เน็ตจาก Cisco พบว่ามีปริมาณการใช้งานเครือข่ายมากขึ้นถึง 69% ในปี 2014 เนื่องด้วยการทำการตลาดบนอินเตอร์เน็ตที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีการใช้งานการแจ้งเตือนมากขึ้น ซึ่งนักการตลาดเชื่อว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด และคุ้มค่าที่สุดในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
Push notifications หรือ การแจ้งเตือน คือการแสดงข้อความบนมือถือของลูกค้า ซึ่งสามารถส่งข้อความอะไรก็ได้ ตั้งแต่แจ้งว่ามีอีเมลเข้ามาใหม่ หรือแม้กระทั่งมีคนกดไลค์รูปภาพของคุณ หรือแจ้งเตือนจากเกม Clash of Clans ว่ากองทักของคุณพร้อมบุกแล้ว แจ้งเตือนสินค้ามาใหม่ แจ้งเตือนโปรโมชั่นสินค้า หรือกล่าวง่ายๆ ก็คือ การแจ้งเตือนนี้สามารถสื่อสารข้อมูลอะไรก็ได้ไปยังผู้ใช้งานแอพนั่นเอง
การส่งจดหมาย
นี่เป็นการเปิดโอกาสให้กับนักการตลาดที่จะสามารถสื่อสารกับผู้ใช้งานแอพได้โดยตรง และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ใช้งานแอพ ซึ่งอาจจะกลายมาเป็นลูกค้าของคุณได้ในอนาคต
Responsys ยังรายงานอีกด้วยว่า ผู้ใช้งานเปิดดูข้อความจากการแจ้งเตือนมากกว่าการเปิดอีเมลถึง 50%
อนาคตของการแจ้งเตือน
บทบาทของการแจ้งเตือนนั้นนับว่ายังมีความสำคัญและประสบความสำเร็จ แม้แต่ Apple ยังมีการพัฒนาการแจ้งเตือนให้ใช้งานได้มากขึ้นใน IOS 8 ซึ่งระบบแจ้งเตือนใหม่นี้จะมีตัวเลือกให้กับผู้ใช้งานได้จัดการได้มากขึ้น รวมถึงผู้ใช้งานจะสามารถตอบกลับการแจ้งเตือนนั้นได้โดยไม่ต้องปิดแอพที่กำลังใช้งานอยู่ได้เลย เช่นนี้ คุณจะสามารถตอบกลับข้อความแม่ของคุณได้เลยแม้ว่าคุณกำลังเล่น Hay Day อยู่ก็ตาม เนื่องจากการแจ้งเตือนนี้ตอบสนองผู้ใช้งานได้ดี
มันช่วยทำให้พัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก รายงานจาก Times ใน New York พบว่าผู้คนคาดว่าจะใช้งานผ่านแอพสำหรับการทำสิ่งใดๆ แทบทุกอย่างในชีวิต นอกจากนี้ Noah Elkin นักวิเคราะห์จาก eMarketer ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ใน SixEstate ว่า “แอพพลิเคชั่นก็คล้ายกับการค้นหาข้อมูล หากค้นหาแบรด์ของคุณไม่เจอ มันก็คือไม่มีแบรนด์ของคุณอยู่นั่นเอง”